“I’m leaving Mojang, I don’t see myself as a real game developer.”

“ผมลาออกจากบริษัท Mojang เพราะว่าผมไม่เห็นภาพของตัวเองที่เป็นนักพัฒนาเกม” จดหมายบอกลาของ ‘Markus Persson’ หรือ ‘Notch’ ผู้พัฒนาเกมอินดี้ชื่อดังที่สร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกอย่าง ‘Minecraft’ ครั้งเมื่อขายบริษัทให้กับ ‘Microsoft’

ในวันแห่งความรักอย่างนี้ Future Trends อยากจะหยิบยกเรื่องราวความหลงใหลและความรักของ Notch ที่มีต่อ ‘Game Developer’ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิดเกมอินดี้ที่โด่งดังที่สุดเกมหนึ่ง

[ ‘Notch’ Markus Persson บิดาผู้สร้าง ‘Minecraft’ ด้วยความรักและความหลงใหล ]

Markus Persson เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2522 ในเมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เขาเป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเติบโตไปในแต่ละวัน ของเล่นที่เขาชอบมากคือ ‘LEGO’ ตัวต่อที่เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ แต่ความพิเศษของเขาคือความชอบในด้าน ‘Coding’ หรือ ‘การเขียนโค้ด’

เมื่ออายุได้ 7 ขวบ Notch แสดงให้พ่อและแม่เห็นถึงความหลงใหลในการเขียนโค้ดของเขา เขาใช้คอมพิวเตอร์ของพ่อในการสร้างเกมที่มีลักษณะเป็นข้อความถามตอบ เมื่อผู้เป็นแม่เห็นความหลงใหลอันแรงกล้านี้ของลูกชายตนเอง จึงได้ส่งเสริมและสนับสนุนความชอบในด้านนี้อย่างเต็มที่ ด้วยการส่ง Notch ไปเรียนพิเศษด้านการเขียนโค้ดเมื่อายุได้ 8 ขวบ

หลังจากที่เขามีทักษะนี้ติดตัว ก็เลือกที่จะใช้พรแสวงในการพัฒนาฝีมือตัวเองอยู่เรื่อยๆ จนเมื่อเขาอายุได้ 18 ปี ทางเลือกชีวิตของเขาเหมือนถูกลิขิตไว้ตั้งแต่ต้น การเรียนในระดับอุดมศึกษาไม่ใช่คำตอบของเขา ด้วยความสามารถด้านการเขียนโค้ดที่สั่งสมมานานนับ 10 ปี ส่งผลให้เขาได้ร่วมงานกับ ‘King’ แพลตฟอร์มพัฒนาเกมชื่อดัง

ความรักและความหลงใหล ในการเขียนโค้ดไม่มีวันหมดไปจากชายคนนี้ ในระหว่างที่ทำงานให้กับ King เขาก็ได้พัฒนาเกมของตัวเองไปด้วย จนเมื่อเขาได้พัฒนาเกมที่มีชื่อว่า ‘RubyDung’ เกมสร้างฐานแบบมีมิติเท่ากัน และเห็นเกม ‘Infiniminer’ เกมขุดแร่รูปแบบบล็อก ด้วยมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ภาพลักษณะแบบบล็อก จุดประกายให้เขาพัฒนาเกม สร้างสรรค์ตามจินตนาการ หรือ เกมรูปแบบ ‘Sandbox’

[ พฤษภาคม ปี 2552 Notch ได้แนะนำให้โลกรู้จักกับ ‘Minecraft’ ]

Minecraft เป็นเกมอินดี้ที่มีแนวคิด ‘Infinity’ หรือ อนันต์ ความไม่จำกัดในความคิดสร้างสรรค์ เรื่องราวของเกมไม่มีอะไรเลย มันขึ้นอยู่กับความคิดส่วนบุคคลว่าจะออกแบบให้มันออกมาในลักษณะไหน ด้วยแนวคิดการสร้างเกมแบบนี้สร้างความนิยมอย่างมาก ผู้คนให้ความสนใจกันตั้งแต่แรกเริ่มของการพัฒนาเกม

หลังจากที่เผยแพร่ Minecraft ให้คนทั่วโลกได้รู้จักกันแล้ว Notch จึงตั้งบริษัท Mojang ขึ้นมาเพื่อพัฒนาเกมนี้เกมสุดอินดี้ของเขา การพัฒนาผ่านไปด้วยดี มีช่วงเวลาที่อัปเดตบ้าง ไม่อัปเดตบ้าง แต่แฟนๆ ของเกมก็ตั้งตารอการเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ เสมอมา

จนการพัฒนาระบบต่างๆ อยู่ในขั้นที่เรียกว่าครบถ้วนต่อการเล่นเกมที่สร้างสุนทรียภาพได้ Minecraft ขึ้นแท่นเป็นเกมที่ได้รับความสนใจอันดับหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Caster ที่ต่างก็สร้างตัวตนจากเกมนี้ Creator ต่างๆ ที่ประยุกต์เกมให้เกิดเป็นสื่อสร้างสรรค์ หรือ Player เองก็ตามที่ได้รังสรรค์จินตนาการผ่านตัวเกมอย่างเต็มที่ นับเป็นความสำเร็จอย่างมากของ Notch ชายผู้มีความหลงใหลและความรัก ในการเขียดโค้ดและพัฒนาเกมมาตั้งแต่เด็ก

แต่ว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เมื่อผลลัพธ์ที่ออกมาเกินกว่าที่คาดหวังไว้อย่างมาก
[ No more ‘Notch’ Only ‘Microsoft’ ]

ในปี 2014 เป็นปีที่สร้างความตกใจให้กับแฟนๆ ของ Minecraft อย่างมาก เมื่อมีข่าวลือหนาหูว่า Microsoft บริษัทซอฟต์แวร์ชื่อดังกำลังจะเข้าซื้อ Mojang ของ Notch ก่อนที่ข่าวลือจะกลายเป็นจริงเว็บไซต์ทางการของ Mojang ได้ออกมาแถลงข่าวว่า “ใช่แล้ว พวกเรากำลังจะถูกซื้อด้วยบริษัท Microsoft” สร้างผลกระทบไปทั่วทั้งวงการเกม

เพราะอะไรกัน ชายผู้ที่มีความหลงใหลและความรักในการเขียนโค้ด ถึงได้ตัดสินใจขายบริษัทพัฒนาเกมลูกรักได้ลง ภายหลังจากการแถลงข่าวของ Mojang Notch ก็ได้ออกมากล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เช่นกัน

“ผมลาออกจากบริษัท Mojang เพราะว่าผมไม่เห็นภาพของตัวเองที่เป็นนักพัฒนาเกม ความหลงใหลในการสร้างเกมของผมเชื่อมโยงกับความสนุก ผมยังรัก Minecraft อยู่เสมอ ความต้องการของผมคือการสร้างเกม แต่ผมไม่ได้สร้างโดยมีเป้าหมายว่ามันจะโด่งดังขนาดนี้”

ใจความสำคัญของ Notch คือเขาชื่นชอบและจะยังชอบต่อไปกับการสร้างสรรค์เกม แต่เกมที่เขาสร้างไม่มีความต้องการแม้แต่เศษเสี้ยวหนึ่งที่อยากจะให้พวกมันโด่งดังเฉกเช่น Minecraft

เมื่อความโด่งดังมาพร้อมกับความคาดหวังและการทำงานที่หนักขึ้น เขาจึงไม่เหลือความสนุกอีกต่อไป จึงเลือกที่จะปล่อยลูกรักให้อยู่ในอ้อมอกของคนที่พร้อมมากกว่า และกลับไปหาความหลงใหล ความรัก และความสนุกดังเดิม

ถึงแม้ว่าเราจะมีความรักในการทำสิ่งใดก็ตาม เมื่อเราทำให้มันเกิดผลลัพธ์ที่สำเร็จแล้ว ก็อาจจะยังไม่ใช่คำตอบที่การันตีว่าความสนุกที่ได้ทำมันจะยังอยู่คงเดิม ในกรณีของ Notch เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความหลงใหลและความรักสามารถหายไปได้ทันทีเมื่อผลงานที่ออกมาไม่เป็นดังที่หวังไว้ ถึงแม้มันจะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ถ้ามันไม่ตรงตามที่คาดหวัง ความหลงใหล ความรัก และความสนุก ก็พร้อมที่จะหายไปทันที

เพราะฉะนั้นแล้ว ความสำเร็จที่มากมายขนาดไหน ก็ไม่เป็นสิ่งการันตีถึงความสามารถในการคงไว้ซึ่งความชอบในผลงานได้ ถ้าหากเรามองย้อนไปแล้วไม่เห็นแม้แต่ความหลงใหล ความรัก และความสนุกจากตัวมัน